“บี จิสติก” ชี้ธุรกิจขนส่งเติบโตสูง หลังขยายฐานลูกค้าหลากหลาย เผยปัจจุบันรถบรรทุกหัวลากใช้งานเต็ม 100% เร่งเจรจาซับคอนแทรค 2-3 ราย หารถเสริมรองรับความต้องการของลูกค้าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเท่าตัวในปีนี้ ส่วนแนวโน้มผลการดำเนิน คาดครึ่งปีหลังบริษัทร่วมทุนส่งรายได้หนุนเติบโตโดดเด่น 

     ดร.ปัญญา บุญญาภิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.บี จิสติกส์ ซึ่งดำเนินธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจร เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจการขนส่งในประเทศของบริษัทฯ มีแนวโน้มเติบโตสูง หลังจากการที่บริษัทได้มีการปรับโครงสร้างธุรกิจขนส่งให้มีประสิทธิภาพขึ้น โดยขยายฐานกลุ่มลูกค้าในธุรกิจขนส่งให้มีหลากหลายมากขึ้น ส่งผลให้ปัจจุบันมีการใช้งานรถบรรทุกหัวลากเต็ม100% ทุกวัน โดยแบ่งเป็นรถบรรทุกหัวลากของบริษัทเอง 37 คัน และ ของพันธมิตรที่เป็นซับคอนแทรค 20 คัน ทำให้บริษัทฯ ต้องเร่งหารถบรรทุกหัวลากเพิ่มเติมเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่มีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง

     โดย บริษัทฯ อยู่ระหว่างเจรจาพันธมิตรที่เป็นซับคอนแทรค 3-5 ราย เพื่อหารถบรรทุกหัวลากมาวิ่งเสริมความต้องการลูกค้า ซึ่งปีนี้มองว่าความต้องการใช้บริการขนส่งรถบรรทุกหัวลากจะเพิ่มขึ้นเท่าตัว  

     “บริษัทจำเป็นต้องเร่งหาซับคอนแทรค เพื่อหารถบรรทุกหัวลากเพิ่มมารองรับความต้องการของลูกค้าที่มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากบริษัทฯ ขยายฐานลูกค้าให้มีความหลากหลายมากขึ้น ทั้งกลุ่มอาหาร  กลุ่มยาและเวชภัณฑ์ กลุ่มอาหารสัตว์ เป็นต้น จากเดิมที่เน้นเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมหนัก”

     สำหรับผลการดำเนินงานในปีนี้ มีแนวโน้มเติบโตจากปีที่ผ่านมา หลังจากที่บริษัทได้ให้ความสำคัญกับการปรับโครงสร้างธุรกิจในกลุ่ม เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและต่อยอดธุรกิจให้มีความแข็งแกร่งในระยะยาว รวมทั้งการบริหารจัดการสินทรัพย์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด 

     โดยคาดว่าช่วงครึ่งหลังจะเห็นภาพการเติบโตที่ชัดเจนของ B เพราะนอกจากธุรกิจหลักคือธุรกิจขนส่งมีการเติบโตแล้ว บริษัทจะมีรายได้จากเงินลงทุนในบริษัทย่อยกลับเข้ามา ซึ่งประกอบด้วย 1. บริษัทบียอนด์ แคปปิตอล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ที่เข้าไปซื้อหุ้นบริษัทโซลูชั่นส์ มอเตอร์ส ซึ่งประกอบกิจการให้เช่ารถระยะยาวในรูปแบบ Operating Lease และให้เช่าระยะสั้น 2.โครงการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ประเทศเวียตนาม 3.การลงทุนในบริษัทมูนช็อต เวนเจอร์แคปปิตอล จำกัด 

     อย่างไรก็ตามในปี 2564 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้โต 10-15% และคาดว่าในปีนี้ บริษัทฯ จะมีผลการดำเนินงานที่มีกำไรสุทธิได้ จากการที่บริษัทได้มีการปรับโครงสร้างธุรกิจขนส่งให้มีประสิทธิภาพขึ้น เพิ่มกลุ่มลูกค้าในธุรกิจขนส่งให้มีหลายหลายเพื่อรองรับการแข่งขัน ปัจจุบันบริษัทมีรายได้หลักจากธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้า 70% รายได้อื่นๆอีก 30%