"บมจ.โรงพยาบาลอินเตอร์เมดิคัล แคร์ แอนด์ แล็บ" (IMH) เดินเกมรุกให้บริการตรวจเชื้อโควิดเต็มสูบ ประกาศมีน้ำยาเพียงพอต่อความต้องการ พร้อมเปิด Walk-in ตรวจเชื้อตลอดเวลาทั้งแบบ Antigen swab รู้ผลภายใน 24 ชั่วโมง และ แบบ PCR swab รู้ผลภายใน 48 ชั่วโมง ขณะที่รพ.ประชาพัฒน์ เปิดรองรับผู้ป่วยโควิดได้ทันที พร้อมส่งซิกซุ่มเจรจาพันธมิตร รับช่วงต่อการฉีดวัคซีนโควิด มั่นใจหากดีลสำเร็จจ่อขึ้นแท่นผู้นำการให้บริการแบบครบทุกมิติ ทั้งด้านการตรวจเชื้อ-ฉีดวัคซีนโควิด ระบุสร้างมูลค่าเพิ่มเข้าไตรมาส2/2564 รับข่าวดี 3 เด้ง ส่อรับรายได้รวม ทะลุนิวไฮ แตะ150 ล้านบาท รับอานิสงส์จากรายได้ รพ.ประชาพัฒน์ – รายได้ จากบริการตรวจโควิด และ รายได้จากรับช่วงต่อฉีดวัคซีนโควิด

     ดร.สิทธิวัตน์ กำกัดวงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โรงพยาบาลอินเตอร์เมดิคัล แคร์ แอนด์ แล็บ หรือ IMH ผู้ดำเนินธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนเฉพาะทางด้านอาชีวเวชศาสตร์ มุ่งเน้นด้านบริการทางการแพทย์แบบเชิงรุกนอกสถานที่ (Mobile Checkup) ด้านการตรวจสุขภาพ และในฐานะประธานกรรมการบริหาร โรงพยาบาลประชาพัฒน์ ซึ่งให้บริการรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั่วไป - ผู้ป่วยตามโครงการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) รวมถึงผู้ป่วยตามโครงการประกันสังคม ที่มีศักยภาพระดับโรงพยาบาลทุติยภูมิ โดยเน้นให้บริการผู้ป่วยพื้นที่ฝั่งธนบุรี เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19 ) ที่กลับมารระบาดรอบใหม่ ส่งผลให้โรงพยาบาลเอกชนในกรุงเทพฯ หลายแห่ง แจ้งงดให้บริการตรวจโควิด -19 หลังประสบปัญหาขาดแคลนน้ำยาที่ใช้ในการตรวจเชื้อ รวมถึงเตียงไม่เพียงพอในการรองรับผู้ป่วย เนื่องจากมีผู้เข้ามาใช้บริการตรวจหาเชื้อโควิด -19  เป็นจำนวนมาก

     ส่งผลให้ IMH เดินกลยุทธ์รุกการให้บริการตรวจเชื้อโควิดต่อเนื่อง เพราะมีน้ำยาตรวจเพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งเปิดบริการรับลูกค้า Walk-in ได้ 2 สถานที่ คือ IMH ราชพฤกษ์ โรงพยาบาล อินเตอร์เมดฯ และ IMH อโศก ศูนย์สุขภาพ IMH ASOKE รพ.ผิวหนังอโศก โดยมีการตรวจเชื้อโควิดแบบ Antigen swab ซึ่งอุปกรณ์ดังกล่าวสามารถเก็บสิ่งส่งตรวจด้วยวิธีการสว๊อป(Nasopharyngeal Swab) จะทราบผลตรวจภายใน 24 ชั่วโมง และการตรวจเชื้อโควิดแบบ PCR swab ซึ่งจะทราบผลภายใน 48 ชั่วโมง พร้อมกันนี้ ในส่วนของรพ.ประชาพัฒน์ ยังสามารถรองรับผู้ป่วยโควิดได้อีกด้วย

     "IMH ยังสบช่องทางเพื่อเปิดโอกาส ในการทำรายได้จากการรับช่วงต่อกรณีการฉีดวัคซีนโควิด ซึ่งเป็นไปตามนโนบายรัฐบาล ที่ไฟเขียวให้โรงพยาบาลเอกชน สามารถนำเข้าและฉีดวัคซีนโควิดได้ โดยขณะนี้ IMH อยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรในการรับช่วงต่อการฉีดวัคซีนโควิด ซึ่งหากดีลดังกล่าวสำเร็จก็จะส่งผลให้ IMH เป็นหนึ่งในผู้นำการให้บริการแบบครบทุกมิติ ทั้งด้านการตรวจเชื้อและฉีดวัคซีนโควิด รวมถึงยังมีโรงพยาบาลประชาพัฒน์ ที่คอยให้บริการผู้ป่วยอีกด้วย"

     ทั้งนี้จากปัจจัยดังกล่าวในข้างต้น ส่งผลให้ในไตรมาส 2/2564 ทางกลุ่ม IMH คาดว่า จะมีรายได้รวมกว่า 150 ล้านบาท ซึ่งทะลุนิวไฮปี เมื่อเทียบกับไตรมาส2/2562 ที่มีรายได้ 82 ล้านบาท และไตรมาส 2 / 2563 มีรายได้ 25 ล้านบาท (เนื่องจากติด Lock down) โดยในไตรมาสนี้บริษัทฯจะมีรายได้จาก 3 ช่องทาง ประกอบด้วย 1.ช่องทางรับรู้รายได้จากโรงพยาบาลประชาพัฒน์ (บริษัทลูก) 2.รายได้จากการตรวจโควิด จากการระบาดรอบใหม่ และ 3. โอกาสการทำรายได้จากการรับช่วงต่อฉีดวัคซีนโควิด ส่งผลให้ IMH มองภาพรวมในปีนี้ว่า รายได้รวมในกลุ่มธุรกิจมีแนวโน้มจะทะลุนิวไฮ แตะระดับกว่า 600 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้

     “IMH คาดว่ารายได้รวมในไตรมาส2/64 มีแนวโน้มการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และมีโอกาสสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจาก IMH จะได้ประโยชน์จากการให้บริการตรวจโควิดระบาดรอบใหม่ ซึ่งแผ่วงกว้างอย่างมาก ขณะเดียวกัน IMH มีสต๊อกน้ำยาตรวจเชื้อเพียงพอ และราคาการตรวจโควิด เข้าถึงได้ทุกกลุ่ม ประกอบกับ IMH มีฐานลูกค้าอยู่ประมาณ 1.2 ล้านคน ซึ่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ ขณะที่ทีมแพทย์มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญด้านการตรวจสุขภาพเชิงรุก เข้าถึงสถานที่ของลูกค้า เช่น บริษัท โรงงาน ซึ่งปัจจัยดังกล่าวสามารถตอบโจทย์การกระจายฉีดวัคซีนโควิดให้ประชาชนได้ทันช่วงที”