"MFC" แนะลงทุนในกองทุนเปิด “M-MIDSMALL” สร้างผลตอบแทนสูงถึง 35.16% ชนะ ดัชนี SET TRI

     ธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี (MFC) แนะลงทุนในกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี มิด สมอล แค็ป ‘M-MIDSMALL’ ซึ่งเน้นลงทุนในตราสารแห่งทุนของบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตั้งแต่ต้นปี 2021 กองทุนมีผลตอบแทน Year-to-date โดยมีผลตอบแทน 35.16% สูงกว่า ดัชนี SET TRI ที่ 10.49%* (ที่มา:Morningstar ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564)  แม้ในวิกฤติโควิด-19 ซึ่งถือว่ากองทุน ‘M-MIDSMALL’ นั้นให้ผลตอบแทนดีต่อเนื่อง โดดเด่น ชัดเจน สะท้อนความแม่นยำในการเลือกลงทุนในหุ้นต่างๆได้เป็นอย่างดี

     ปัจจัยที่ทำให้ผลตอบแทนของกองทุน ‘M-MIDSMALL’ มีความโดดเด่นมากกว่ากองทุนหุ้นไทยอื่นๆ เนื่องจากผู้จัดการกองทุนใช้นโยบายการบริหารแบบเชิงรุก (Active Management) และใช้ Bottom-up strategy ในการคัดเลือกหุ้นและให้น้ำหนักอย่างมีนัยสำคัญในพอร์ตการลงทุน ซึ่ง 4 หลักเกณฑ์ที่ทางผู้จัดการกองทุนใช้คัดเลือกหุ้นมีดังนี้ 

     1. Fundamental – บริษัทที่มีการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้าง, มีการเปลี่ยนผู้บริหาร, หรือ มีสินค้า/ธุรกิจใหม่ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงปัจจัยพื้นฐานเหล่านี้จะสร้างโอกาสในการเพิ่มกำไรในอนาคต

     2. Valuation – ราคาหุ้นยังต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐานและมี reward to risk ratio สูง

     3. Momentum – ราคาหุ้นเริ่มมีแนวโน้ม หรืออยู่ในแนวโน้มขาขึ้น 

     4. Catalyst – บริษัทมีปัจจัยเร่งที่จะทำให้นักลงทุนหันมาสนใจบริษัท เช่น คาดว่าจะเข้า SET100, กำไรไตรมาสหน้าจะเติบโตสูง, หรือกำลังจะย้ายหมวดอุตสาหกรรม ซึ่งสามารถยกตัวอย่าง กลุ่มหุ้นที่ปัจจุบันทางผู้จัดการกองทุนคัดเลือกมาจาก 4 หลักเกณฑ์ข้างต้น เช่น 

     หุ้นในกลุ่มไฟแนนซ์ หรือ สถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร เนื่องจากอุตสาหกรรมมีอัตราการเติบโตต่อเนื่องตามการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อ โดยผู้จัดการกองทุนจะเลือกเข้าลงทุนในหุ้นไฟแนนซ์ที่ราคายังต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐาน และ valuation มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นเท่าหุ้นตัวอื่นในอุตสาหกรรมเดียวกัน

     หุ้นในกลุ่มธุรกิจ New S-Curve หรือหุ้นที่ได้รับประโยชน์จาก mega trend เช่น หุ้นที่เกี่ยวข้องกับกัญชง หลังรัฐบาลไทยได้ปลดล็อกกัญชงให้เอกชนสามารถนำพืชชนิดนี้มาใช้ในผลิตภัณฑ์ต่างๆได้ โดยผู้จัดการกองทุนจะเลือกหุ้นตัวที่ยังมี valuation ไม่สูง แต่มีศักยภาพในการเติบโตของกำไรอย่างโดดเด่นจากการเข้าจับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพืชเศรษฐกิจตัวใหม่นี้ นอกเหนือจากความโดดเด่นในการคัดเลือกหุ้นรายตัวของทางผู้จัดการกองทุนของเรา อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้กองทุน M-MIDSMALL มีความน่าสนใจมากขึ้นอีก คือ โดยภาพใหญ่แล้วหลังวิกฤติเศรษฐกิจ ซึ่งหุ้นขนาดกลาง-เล็กจะปรับตัวได้ดี ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ 

     MFC เปิดตัวกองทุน M-MIDSMALL มาตั้งแต่ 8 เมษายน 58 เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกระจายการลงทุนไปยังหุ้นของบริษัทจดทะเบียนขนาดกลางและเล็กคาดหวังผลตอบแทนที่ดี และสามารถยอมรับความเสี่ยงจากการลงทุน ซึ่งที่ผ่านมาสามารถสร้างผลตอบแทนเป็นที่น่าพอใจอย่างมาก โดยทีมผู้จัดการกองทุนจะเลือกสรรค์การลงทุนอย่างเข้มข้น และเร็วๆนี้ MFC เตรียมจะเปิดกองทุนใหม่ที่ลงทุนในเฉพาะเจาะจงในธุรกิจซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในตอนนี้ เป็นกองทุนรวมกองทุนแรกในประเทศไทย คาดว่าจะได้รับความสนใจและเสียงตอบรับจากนักลงทุนอย่างล้นหลามแน่นอน

     สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในกองทุนเปิด M-MIDSMALL สามารถลงทุนขั้นต่ำได้ตั้งแต่ 10,000 บาท สำหรับการลงทุนในครั้งแรกและครั้งต่อไป 1,000 บาท โดยซื้อขายผู้หน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ ติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายการลงทุน ความเสี่ยง หรือหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ. เอ็มเอฟซี