• 11 February 2021 at 17:38

     "ธนาคารกรุงไทย" เดินหน้าลุยธุรกิจลีสซิ่ง ดึง "KTC" ถือหุ้นบริษัท KTB LEASING ในสัดส่วน 75.05% และธนาคารกรุงไทยลดสัดส่วนเหลือ 24.95% นำศักยภาพของกลุ่มบริษัทในเครือ มาต่อยอดธุรกิจใช้จุดแข็งของ KTC ที่เชี่ยวชาญในธุรกิจรายย่อย มาพัฒนาผลิตภัณฑ์ และขายผ่านเครือข่ายสาขาที่แข็งแกร่งของธนาคารที่ครอบคลุมทั่วประเทศ มั่นใจบริษัท KTB LEASING จะเติบโตและมีส่วนแบ่งในตลาดสินเชื่อรถยนต์เพิ่มขึ้น

     ผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่าหลังจากธนาคารมียุทธศาสตร์ในการปรับพอร์ต บริษัทKTB LEASING บูรณาการกระบวนการติดตามหนี้ และปรับแผนธุรกิจใหม่หมด ขณะนี้ธนาคารพร้อมที่จะผนึกกำลังนำจุดแข็งของกลุ่มธุรกิจ มาส่งเสริมกันและกัน เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และประสานประโยชน์ทางธุรกิจอย่างรอบด้าน โดยล่าสุดธนาคาร ปรับเปลี่ยนสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทกรุงไทยธุรกิจลีสซิ่ง หรือ KTB LEASING โดยจะ ให้บริษัทบัตรกรุงไทย หรือ KTC เข้าถือหุ้นในสัดส่วน 75.05% และธนาคารกรุงไทยลดการถือหุ้นเหลือเพียง 24.95% ซึ่งคณะกรรมการธนาคารได้อนุมัติแล้วในวันนี้ และอยู่ระหว่างเสนอขออนุมัติต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ KTC

     ธนาคารฯ เชื่อมั่นว่า ความโดดเด่นและความเชี่ยวชาญในการทำธุรกิจสินเชื่อรายย่อยของ KTC ทั้งสินเชื่อบุคคล สินเชื่อทะเบียนรถยนต์ KTC พี่เบิ้ม สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ จะช่วยเพิ่มสัดส่วนธุรกิจลีสซิ่งของบริษัท KTB LEASING โดยเฉพาะในส่วนของสินเชื่อกลุ่มตลาดรถยนต์ใหม่ รถมือ 2 และรถแลกเงิน ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีตลาดใหญ่ และมีศักยภาพในการเติบโต โดยลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการและผลิตภัณฑ์ผ่านทีมการตลาดของทั้งบริษัท ตลอดจนเครือข่ายสาขาของธนาคารกรุงไทยที่ครอบคลุมกว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งจะทำให้ธนาคารกรุงไทยต่อยอดธุรกิจ และเพิ่มความสามารถในการทำรายได้

     "ที่ผ่านมา บริษัท KTB LEASING เน้นธุรกิจด้านเช่าซื้อเครื่องจักร ดังนั้นการดึง KTC มาถือหุ้นในครั้งนี้ จะได้เห็นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่ช่วยเพิ่มความคึกคักให้กับตลาด ลีสซิ่ง รวมทั้งเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า ที่สำคัญจะเป็นการขยายฐานลูกค้า และเพิ่มผลตอบแทนให้กับธนาคาร ทั้งนี้ปัจจุบันธนาคารกรุงไทยถือหุ้นใน KTC 49.3%"

     ด้าน ระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บัตรกรุงไทย หรือ เคทีซี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติให้ “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เข้าลงทุนในบริษัท กรุงไทยธุรกิจ ลีสซิ่ง จำกัด หรือ “เคทีบี ลีสซิ่ง” ธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ในเครือธนาคารกรุงไทย ด้วยการซื้อหุ้นสามัญจำนวนทั้งสิ้น 75,050,000 หุ้น (เจ็บสิบห้าล้านห้าหมื่นหุ้น) คิดเป็น 75.05% มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท ในราคาหุ้นละ 7.92 บาท คิดเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 594.396 ล้านบาท ซึ่งมีเงื่อนไขการปรับปรุงราคาซื้อขายหุ้นในภายหลังให้เป็นไปตามมูลค่าที่แท้จริงของทรัพย์สิน ในขณะที่ธนาคารกรุงไทยยังคงถือหุ้นในสัดส่วน 24.95% โดยจะนำเสนอเรื่องเข้าที่ประชุมผู้ถือหุ้นในเดือนเมษายน 2564 เพื่อขออนุมัติเข้าทำรายการดังกล่าว โดยจะต้องได้รับมติอนุมัติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของผู้ถือหุ้นที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน โดยไม่นับคะแนนเสียงในส่วนของผู้ถือหุ้นที่มีส่วนได้เสีย และ ธนาคารกรุงไทยจะต้องดำเนินการตามหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับธนาคารแห่งประเทศไทยต่อไป

     “เหตุผลในการเข้าซื้อ “เคทีบี ลีสซิ่ง” ในครั้งนี้ เนื่องจากเห็นว่าเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโต มีสาขาบริการตั้งอยู่ในหัวเมืองหลักของทุกภูมิภาคในไทย และสามารถทำธุรกิจเช่าซื้อและลีสซิ่งทุกประเภท ซึ่งจะช่วยเติมเต็มและสร้างโอกาสให้เคทีซีสามารถแตกไลน์ธุรกิจสินเชื่อที่มีหลักประกันได้กว้างขวาง ครอบคลุมและครบวงจรมากขึ้น ต่อยอดจากสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ “เคทีซี พี่เบิ้ม” เพื่อให้ทำธุรกรรมได้ครบวงจร ซึ่งเคทีซีได้เริ่มเบนเข็มทำธุรกิจสินเชื่อมีหลักประกันเมื่อปลายปี 2563 ที่ผ่านมา” 

 

     การเข้าลงทุนใน “เคทีบี ลีสซิ่ง” จะทำให้บริษัทฯ ได้มาซึ่งฐานลูกค้าอีกกลุ่มหนึ่ง และพันธมิตรธุรกิจที่จะก่อให้เกิดการผนึกกำลังสำคัญ ประกอบกับจุดแข็งของเคทีซีในการบริหารจัดการต้นทุน การบริหารคุณภาพพอร์ตลูกหนี้และการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในระบบปฏิบัติการต่างๆ ที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงศักยภาพของทีมบริหาร บุคลากร และผู้แนะนำผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในการทำธุรกิจ จะเอื้อประโยชน์ให้เราสามารถพัฒนาองค์ความรู้ของทั้งสององค์กรเข้าด้วยกัน เพื่อให้ธุรกิจของบริษัทเติบโตแข็งแกร่งได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว และสามารถสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจให้กับบริษัทฯ และผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มภายหลังจากการเข้าถือหุ้น