“บริษัท นายณ์ เอสเตท จำกัด” ประกาศความร่วมมือกับ “บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด” หรือ TPC ส่ง 3 โครงการพร้อมอยู่บนทำเลศักยภาพทั่วกรุงเทพฯ มูลค่ารวมกว่า 200 ล้านบาท เข้าโปรแกรมพิเศษ “Elite Flexible One” หวังกระตุ้นกำลังซื้อชาวต่างชาติ ที่ต้องการลงทุนในประเทศไทย คาดสามารถดึงความสนใจลูกค้าต่างชาติที่ต้องการที่พักอาศัยมีระดับ ใจกลางกรุงเทพฯ ภายในสิ้นปี 2564 

     สุธี ลิมปนชัยพรกุล ประธานอำนวยการ บริษัท นายณ์ เอสเตท จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่ทาง ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด (บัตรอีลิท คาร์ด) เปิดตัวโปรแกรม “Elite Flexible One” นับว่าเป็นที่น่าสนใจในวงการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และได้รับการตอบรับค่อนข้างดี ซึ่ง นายณ์ เอสเตท เป็นบูทีค ดีเวลลอปเปอร์ ที่ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาโครงการบ้านและคอนโดฯ ลักชัวรี่ระดับไฮเอนด์ ที่เน้นเจาะลูกค้าเฉพาะกลุ่มที่มีความต้องการอย่างชัดเจน (Niche Market) ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยหวังว่าการเข้าร่วมโปรแกรมดังกล่าวจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการขยายฐานลูกค้าชาวต่างชาติได้เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในสถานการณ์วิกฤตโควิด-19  

     “จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 (COVID-19) ระลอกใหม่นับเป็นปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมให้เกิดการชะลอตัว แต่ในทุกวิกฤตย่อมมีโอกาสเสมอ ซึ่งการบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด หรือ บัตรอีลิท คาร์ด นับเป็นอีกโอกาสสำคัญในการขยายฐานลูกค้าชาวต่างชาติให้แก่บริษัทฯ และเป็นอีกช่องทางในการช่วยกระตุ้นภาพรวมของเศรษฐกิจ โดยครั้งนี้ได้นำโครงการพร้อมอยู่ (Ready to move in) จำนวน 3 โครงการ กว่า 10 ยูนิต มูลค่ารวมกว่า 200 ล้านบาท ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 17 – 80 ล้านบาท เข้าร่วม” 

     ด้าน สมชัย สูงสว่าง ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด (TPC) ผู้ดำเนินงานโครงการบัตรสมาชิกไทยแลนด์ อีลิท เผยว่า บริษัทฯ ได้เล็งเห็นวิกฤตจากสภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจอันสืบเนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 (COVID-19) บริษัทฯ จึงมีแนวคิดที่จะขยายสิทธิประโยชน์จากที่มีอยู่ เพื่อเป็นการดึงเงินลงทุนจากนักลงทุนชาวต่างชาติที่มีศักยภาพ ให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ผ่านสมาชิกบัตร Thailand Elite ในรูปแบบของโปรแกรมพิเศษ “Elite Flexible One” 

     “เรามีความยินดีที่ทาง นายณ์ เอสเตท ให้ความไว้วางใจส่งโครงการที่พร้อมอยู่เพื่อเข้าร่วม “Elite Flexible One” และด้วยศักยภาพของ นายณ์ เอสเตท ที่มีความแข็งแรงทั้งภาพลักษณ์ของแบรนด์และสินค้า อีกทั้งนโยบายการดำเนินงานที่สอดคล้องกัน ก็เชื่อมั่นว่าจะสามารถดึงกำลังซื้อชาวต่างชาติและสมาชิกอีลิทคาร์ดมาลงทุนเพิ่มได้อย่างแน่นอน” 

     ทั้งนี้ โครงการพร้อมอยู่ (Ready to move in) ภายใต้การดำเนินงานของ นายณ์ เอสเตท ที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าว ประกอบด้วย โครงการ คราม สุขุมวิท 26, โครงการ ควอร์เตอร์ 31 สุขุมวิท 31, โครงการ ควอร์เตอร์ 39 สุขุมวิท 39 

     “ซึ่งจากการนำโครงการต่างๆ เข้าร่วมกับ อีลิท คาร์ด บริษัทฯ คาดว่าภายในสิ้นปี 2564 จะสามารถดึงกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติที่สนใจที่พักอาศัยมีระดับใจกลางกรุงเทพฯ ได้เพิ่มอีกกว่า 10 ยูนิต มูลค่ารวมกว่า 200 ล้านบาท” สุธี กล่าวสรุป