• 24 November 2020 at 14:18

     "ทรูมันนี่" ขยายแพลตฟอร์มเพิ่มบริการทางการเงินครบวงจร ร่วมกับ บริษัทในเครือ บลน. แอสเซนด์ เวลธ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุนภายใต้บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด เปิดตัว “Start Invest” บริการเปิดบัญชีและชำระเงินซื้อขายกองทุนรวม ผ่านแอปฯ TrueMoney Wallet เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ภายใต้แนวคิด “ลงทุนง่าย ๆ ใครก็ทำได้บนทรูมันนี่ วอลเล็ท” เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ทรูมันนี่เป็นประจำกว่า 15 ล้านรายที่ส่วนใหญ่ยังไม่เคยลงทุน ให้มาเริ่มลงทุนเป็นครั้งแรกผ่านแอปฯ TrueMoney Wallet โดยบริษัทฯ เชื่อมั่นว่าจะสามารถดึงดูดนักลงทุนทั้งรายเก่าและใหม่ให้เปิดบัญชีได้ไม่น้อยกว่า 600,000 รายและสร้างมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 15,000 ล้านบาท ในปี 2564

     ทั้งนี้ในช่วงแรก บริการเปิดบัญชีซื้อขายกองทุนผ่านแอปฯ TrueMoney Wallet ได้นำเสนอกองทุนรวมมากกว่า 600 กองทุน จากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนชั้นนำในประเทศไทย 10 แห่ง ได้แก่ บลจ.พรินซิเพิล, บลจ.ทาลิส, บลจ.แลนด์ แอนเฮ้าส์, บลจ.ไทยพาณิชย์, บลจ.กรุงศรี, บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด, บลจ. วรรณ จำกัด, บลจ.เกียรตินาคินภัทร จำกัด, บลจ. วี จำกัด และ บลจ. ทหารไทย พร้อมเชื่อมเทคโนโลยี e-Wallet เข้ากับบริการ FundConnext ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)

     ธัญญพงศ์ ธรรมาวรานุคุปต์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด กล่าวว่า ทรูมันนี่ ได้ทำให้ Financial Inclusion ในประเทศไทยมีความหลากหลายและครอบคลุมความต้องการด้านบริการทางการเงินมากยิ่งขึ้น เราเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ทรูมันนี่เป็นประจำกว่า 15 ล้านรายที่ส่วนใหญ่ยังไม่เคยลงทุน ให้มาเริ่มลงทุนเป็นครั้งแรกผ่านแอปฯ TrueMoney Wallet ของเรา เพื่อตอกย้ำพันธกิจที่เรามุ่งมั่นมาโดยตลอดนั่นก็คือการมอบนวัตกรรมทางการเงินที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ผ่านการพัฒนานวัตกรรมฟินเทคที่มอบโอกาสทางการเงินให้ทุกคนสามารถใช้จ่าย สร้างหลักประกัน เก็บออม กู้ยืม รวมถึงลงทุน ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยผ่านแอปฯ อีวอลเล็ท พร้อมสร้างความมั่นคงทางการเงินที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้พวกเขาได้

     ณัฐวดี แซ่เอี้ย ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์และนวัตกรรมทางธุรกิจ บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด กล่าวว่า หลังจากเราสร้างแพลตฟอร์ม Payment ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง วันนี้ เราต่อยอดพัฒนานวัตกรรมบริการทางการเงินไปสู่การลงทุนในกองทุนรวม เพื่อเปิดโอกาสให้คนไทยทุกคนมีโอกาสเข้าถึงการลงทุน โดยคิดใหม่ทำใหม่ในการนำเสนอบริการลงทุนกองทุนรวม ‘Start Invest’ บนแอปฯ TrueMoney Wallet ให้

     1) เข้าใจง่าย และผู้ใช้สามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่าเดิม ยังไม่เปิดพอร์ตก็เข้ามาดูและศึกษาการลงทุนได้

     2) สามารถเปิดบัญชีเพื่อเริ่มลงทุนได้ง่าย ๆ ผ่านแอปฯ ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที ก็สามารถเปิดพอร์ตการลงทุนและเข้าถึงกองทุนรวมกว่า 600 กองทุน ซึ่งในอนาคตมีแผนจะเพิ่มจำนวนให้มีความหลากหลายมากขึ้น ที่สำคัญ มีอิสระในการซื้อกองทุนได้แบบไม่จำกัดค่าย และมีกองทุนที่เริ่มต้นเพียงหนึ่งบาทก็ลงทุนได้ ลูกค้าที่มีเงินในบัญชีที่ยังไม่นำไปใช้จ่ายจึงสามารถเอาไปลงทุนให้งอกเงยได้อย่างสบาย

     และ 3) เราได้มอบ Disruptive Customer Journey ที่ตอบรับความต้องการของทั้งนักลงทุนรายใหม่และรายเก่า โดยจัดทำ Personalized Fund Guide ที่เหมาะกับนักลงทุน, มีการจัดเรียงกองทุนตาม performance ที่ผู้ใช้สามารถตั้งค่าดูได้ง่าย ๆ แม้เป็นมือใหม่ หรือคลิ๊ก favorite กองทุนที่สนใจเพื่อกลับมาดูทีหลัง โดยเราได้นำนวัตกรรม e-Wallet มาเชื่อมต่อเข้ากับบริการ FundConnext ของ ตลท. ช่วยให้นักลงทุนสามารถศึกษาการลงทุน ติดตามหนังสือชี้ชวนการลงทุน คำแนะนำต่าง ๆ จากผู้เชี่ยวชาญ ซื้อ หรือ ขายกองทุนผ่านหน้าแดชบอร์ดในแอปพลิเคชั่นได้แบบเรียลไทม์

     ทั้งนี้ในงานเปิดตัว ดร.ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีความยินดีที่ ทรูมันนี่ และแอสเซนด์ เวลธ์ รวมถึง บลจ. ชั้นนำกว่า 10 แห่ง ได้ร่วมมือกันเปิดให้บริการซื้อขายกองทุนรวมผ่านแอปพลิเคชั่น TrueMoney Wallet ซึ่งการเชื่อมต่อ e-Wallet เข้ากับโลกการลงทุนในครั้งนี้ จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้คนไทยสามารถเข้าถึงการลงทุนได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ พร้อมให้การสนับสนุนองค์ความรู้และเครื่องมืออย่างเต็มที่”