"บริษัท คลีนเทค โซลาร์ (ประเทศไทย) จำกัด" ได้ลงนามเซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว (PPA) กับ "บมจ.โอสถสภา" ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำของประเทศไทย โดยจะมีการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดรวม 3 MW บนหลังคาโรงงานในประเทศไทยของโอสถสภารวม 5 แห่ง ระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์นี้จะได้รับการสนับสนุนทางการเงิน ออกแบบ ติดตั้ง ดูแลและดำเนินการโดยคลีนเทค โซลาร์ตลอดระยะเวลาของข้อตกลง โครงการนี้สะท้อนให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของโอสถสภาในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากกระบวนการผลิต

     ทั้งนี้ คาดว่าระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่จะถูกติดตั้งนั้น จะผลิตพลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์ได้ประมาณ 4,300 MWh ในปีแรก ซึ่งเทียบเท่ากับการชดเชยการปล่อยคาร์บอน (CO2 ) ได้กว่า 2,400 ตัน โครงการนี้จะช่วยประหยัดต้นทุนและลดการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานฟอสซิลหรือพลังงานที่ใช้แล้วหมดไปได้ โดยไม่มีเงินทุนล่วงหน้าหรือค่าบำรุงรักษาในอนาคต เนื่องจากทางคลีนเทค โซลาร์ จะเป็นฝ่ายสนับสนุนทุก ๆ ด้านตลอดระยะเวลาของข้อตกลง  

     วรรณิภา ภักดีบุตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.โอสถสภา กล่าวว่า “โอสถสภายึดหลักดำเนินธุรกิจโดยใส่ใจและรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม การติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาโรงงานของโอสถสภา จึงเป็นหนึ่งในมาตรการที่จะช่วยประหยัดต้นทุนในระยะยาว ช่วยบรรเทาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และสนับสนุนความพยายามในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน โดยทดแทนการใช้ไฟฟ้าส่วนหนึ่งด้วยพลังงานสะอาด ทั้งนี้ ในฐานะผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำของประเทศไทยที่ดำเนินธุรกิจมาอย่างยาวนาน โอสถสภาเชื่อว่าการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนนั้นต้องให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจในระยะยาว รวมถึงการสร้างพันธมิตรที่มั่นคง ด้วยเหตุนี้ เราจึงมีความยินดีที่ได้ร่วมมือกับ บริษัท คลีนเทค โซลาร์ ในฐานะพันธมิตรด้านพลังงานแสงอาทิตย์ ที่จะร่วมเดินทางบนเส้นทางสู่การดำเนินธุรกิจที่ใช้คาร์บอนต่ำและใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ”

     ราจู ชูคลา (Raju Shukla) ผู้ก่อตั้งคลีนเทค โซลาร์และประธานบริหาร กล่าวว่า “คลีนเทค โซลาร์รู้สึกยินดีได้ร่วมงานและต้อนรับแบรนด์สินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำอย่างโอสถสภา เข้ามาเป็นลูกค้าสำคัญของเรา คลีนเทค โซลาร์มีความภูมิใจที่ได้เป็นพันธมิตรกับบริษัทชั้นนำทางธุรกิจและได้รับความเชื่อถือในการส่งมอบระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีประสิทธิภาพให้กับลูกค้าของเรา ซึ่งล้วนเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงไปสู่การใช้พลังงานหมุนเวียนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม”